เป็นสภาที่เป็นเหมือนตรายางสร้างความชอบธรรมให้แก่สมาชิกในสภาว่ามี "คุณธรรม และจริยธรรม" เหนือกว่าผู้อื่น ส่งผลให้มีอำนาจทางสังคมในการใ้ห้ความชอบธรรมว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสม และทำให้เกิดการถกเถียงน้อยลงในสังคม

การมีองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดว่า อะไรเป็นสิ่งที่เหมาะสม ดีงามต่อสังคม จะก่อให้เกิด

ผลกระทบทางตรง : ทำให้สิ่งที่ไม่ได้รับการให้ความเห็นชอบว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมดีงาม ถูกคัดค้านและต่อต้านโดยสังคมได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีที่ยืนน้อยลงบนจุดยืนของตัวเอง และทำให้สิ่งที่กลุ่มการเมืองต้องการผลักดันในแง่ของความคิด สามารถถูกผลักดันผ่านสภานี้ได้ง่ายขึ้น และเมื่อผ่านสภานี้ก็จะเป็นการรองรับประเด็นนั้นอย่างเป็นทางการ อาจนำไปสู่การนำความคิดนั้นๆไปควบรวมกับนโยบาย แนวบรรทัดฐานแห่งชาติ อย่างเป็นรูปธรรม

ผลกระทบทางอ้อม : ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกยอมรับอำนาจในเชิงคุณธรรมที่เหนือกว่า และเห็นว่าคนมีคุณธรรมที่ไม่เท่ากัน นำไปสู่การสร้างอีกหนึ่งบรรทัดฐานในการยกย่องและให้คุณค่าของคน แน่นอนว่าคนเราให้คุณค่าของคนบนหลายบรรทัดฐาน แต่การมีคุณค่าเหนือกว่าคนอื่นในเชิงคุณธรรม อาจส่งผลให้การวิพากษ์วิจารณ์ลดลง

นอกจากนี้แล้ว ประเด็นที่ไม่ได้รับการเข้าไปถกเถียงในสภา อาจถูกละเลยจากสังคม เนื่องจากสภาก็เปรียบดั่งเป็นเวทีหนึ่งที่นำประเด็นที่คนน่าจะสนใจเข้าไปพูดคุย หากต้องการให้ละเลยเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็อาจจะป้องกันประเด็นนั้นไม่ให้เข้ามาสู่การถกเถียงได้  หรือในกรณีที่แย่กว่าหากเข้าไปถกเถียงในสภาแล้วมีการให้ความเห็นชัดเจน ประเด็นนั้นก็จะขาดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคนเห็นว่า ได้วิพากษ์วิจารณ์จบไปแล้ว

แสดงความเห็น