นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย แถลงภายหลังประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงกรณีการทำประชามติ ว่า ที่ประชุม ครม. และ คสช. มีมติเอกฉันท์ ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ซึ่งคาดว่าจะเสนอแก้ไขให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาแก้ไขภายในเดือนมิถุนายน เพื่อเปิดทางให้ทำประชามติ รวมถึงจะต้องพิจารณาด้วยว่าผู้ใดจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะต้องทำประชามติ ทั้งนี้ หากสภาปฏิรูปแห่งชาติไม่เห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญการทำประชามติก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอที่จะให้หัวหน้า คสช. ใช้ ม.44 เพื่อเปิดทางในการทำประชามตินั้นไม่สามารถทำได้ เพราะ ม.44 เป็นเพียงกฎหมายในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวไม่เปิดช่องทางในการทำประชามติไว้
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสรุปให้มีการทำประชามติ จะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของคณะกรรมาการเลือกตั้ง (กกต.) ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการทำประชามติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ไม่เกินเดือนมกราคม ปี 2559 และจะส่งผลให้โรดแมปเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก 3-4 เดือน และคาดว่าจะการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นภายในเดือนสิงหาคม 2559
นายวิษณุ ยังกล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาในเรื่องการขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด และอาจเพิ่มระยะเวลาให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่เกิน 30 วัน จากกรอบระยะเวลาเดิม คือ 60 วัน เนื่องจากมีผู้ขอเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรอบระยะเวลาดังกล่าวไม่เพียงพอ
ส่วนข้อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของคณะรัฐมนตรีนั้น จะมีการประชุมนัดพิเศษอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. เนื่องจากมีเสนอเป็นจำนวนมาก และจะรวบรวมเสนอให้คณะกรรมมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในวันเดียวกัน
นอกจากนี้ จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายจากประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศส มาให้คำแนะนำและกล่าวปาฐกถาการผ่านพ้นวิกฤตเข้าสู่ระบบประชาธิปไตย
ที่มา: สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น