การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการ เห็นด้วยหรือไม่?

คะแนนเสียงของคุณจะถูกเก็บข้อมูลแบบนิรนาม ไม่สามารถระบุผู้ลงคะแนนได้ แต่สามารถยกเลิกการลงคะแนนได้ โดยใช้ข้อมูลรหัสที่ได้รับทางอีเมล  ไม่ต้องการรับอีเมล
ลงคะแนนแล้ว 1964 คน
เห็นด้วย 188ไม่เห็นด้วย 1776

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 กรกฎาคม 2558 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง พ.ศ. .... โดยเนื้อหาสำคัญจะกำหนดให้มี "คณะกรรมการกำลังพลสำรอง" หรือ คกส. มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ คกส. มีอำนาจเกี่ยวกับเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรอง นอกจากนี้กำหนดให้กำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารในการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อตรวจสอบ ฝึกวิชาทหาร ปฏิบัติราชการ ทดลองความพรั่งพร้อม หากหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารต้องระวางโทษอาญา กำหนดสิทธิค่าตอบแทน สวัสดิการ ให้กับกำลังพลสำรอง นอกจากนี้ยังระบุว่า หากนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองในวันลาเพื่อรับราชการทหารตามพระราชบัญญัติ จะมีอัตราโทษทางอาญาเช่นเดียวกับบทบัญญัติมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ. ....ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

1. กำหนดให้มีคณะกรรมการกำลังพลสำรอง เรียกโดยย่อว่า “คกส.” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ โดย คกส. มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรองและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับกำลังพลสำรอง กำหนดแนวทางการปฏิบัติและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรอง เสนอแนะแผนพัฒนากิจการกำลังพลสำรองและกำลังสำรองอื่น ๆ และเสนอแนะการกำหนดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่กำลังพลสำรองและนายจ้างที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารตามพระราชบัญญัตินี้

2. กำหนดให้กรมการสรรพกำลังกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของ คกส. มีอำนาจหน้าที่วางแผนและประสานงานการดำเนินการของ คกส. รวบรวมเอกสารและข้อมูลตลอดจนส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ในกิจการกำลังพลสำรองเป็นศูนย์กลางการติดต่อประสานงานในการดำเนินงานทั้งปวงเกี่ยวกับกิจการกำลังพลสำรองหรือปฏิบัติการอื่นใดตามที่ คกส. มอบหมาย

3. กำลังพลสำรองมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

3.1 เข้ารับราชการทหารในการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อปฏิบัติราชการ หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม หากหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารต้องระวางโทษอาญา

3.2 กรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อตัวหรือนามสกุล หรือแก้ไขเลขประจำตัวประชาชน ให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไปยังหน่วยทหารที่ตนมีรายชื่อบรรจุอยู่ หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษอาญา

4. การเรียกกำลังพลสำรองและการระดมพล กำหนดให้อยู่ภายใต้ขอบเขตและวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ โดยได้นำหลักการการเรียกกำลังพลสำรองเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อทดลองความพรั่งพร้อม และการระดมพลมาจากข้อบังคับ กห. ว่าด้วยการเตรียมพล พ.ศ. 2515

5. กำลังพลสำรองมีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าพาหนะ ค่าเช่าที่พัก การรักษาพยาบาล และสิทธิประโยชน์อื่น ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง

6. นายจ้างซึ่งไม่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองในวันลาเพื่อรับราชการทหารตามพระราชบัญญัตินี้โดยมีอัตราโทษทางอาญาเช่นเดียวกับบทบัญญัติมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

ที่มา ประชาไท

 

 

 

สถานะการเปิดให้โหวต: 
ปิดการโหวต

แสดงความเห็น

ประเด็นสนับสนุน

ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมปี 2551 ที่กำหนดให้กระทรวงกลาโหมมีหน้าที่ป้องกันประเทศ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ และช่วยเหลือประชาชน แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดจึงไม่สามารถดำรงสภาพของกำลังรบไว้ได้ตลอดเวลา จึงต้องมีการจัดการกำลังสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ

Votes: ชอบ 2 ไม่ชอบ 8 0 ความเห็น

เพื่อรองรับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และจากสถานการณ์อุทกภัย ที่ผ่านมากองทัพได้จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง แต่ไม่สามารถที่จะใช้กำลังสำรอง รวมถึงนักศึกษาวิชาทหารที่มีอยู่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบภัยได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และไม่มีอำนาจคุ้มครองความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ 

Votes: ชอบ 0 ไม่ชอบ 8 0 ความเห็น

ประเด็นคัดค้าน

การเรียกกำลังพลสำรองนั้น ไม่มีความแน่นอนว่าคณะกรรมการกำลังพลสำรองจะเรียกเมื่อใด ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้แก่ผู้จ้างแรงงาน ทั้งนี้กฎหมายกำหนดว่า นายจ้างซึ่งไม่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองในวันลาเพื่อรับราชการทหารตามพระราชบัญญัตินี้มีโทษทางอาญา

Votes: ชอบ 13 ไม่ชอบ 0 1 ความเห็น

การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียน ย่อมทำให้ประเทศในภูมิภาคมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น และโอกาสที่จะเกิดสงครามลดน้อยลง ดังนั้น แนวโน้มจึงน่าจะเป็นการลดกำลังพลหลัก มากกว่าการบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการเรียกกำลังพลสำรอง

Votes: ชอบ 11 ไม่ชอบ 2 0 ความเห็น

สัดส่วนกำลังพลหลักต่ออัตราประชากรของไทยสูงกว่าหลายปรระเทศ รวมทั้งประเทศมหาอำนาจทางการทหารอย่างสหรัฐฯ

Votes: ชอบ 10 ไม่ชอบ 1 1 ความเห็น