ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังคงร้อนระอุในพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และคดีความโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ศาลตัดสินให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องดำเนินมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ป่วยเนื่องจากมลภาวะจากโรงไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกประเด็นเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินมากล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยกล่าวว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นโรงไฟฟ้าที่ถูกที่สุดในการลงทุน และแทบไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การถกเถียงในสังคมเป็นวงกว้างว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่
จากสถิติสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงผลิตพลังงานไฟฟ้าสะสม เมื่อเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2558 ระบุว่าประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติร้อยละ 71 ถ่านหินร้อยละ 19 น้ำร้อยละ 6 พลังงานทดแทน เช่น แสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล ร้อยละ 3 ส่วนที่เหลืออีกราวร้อยละ 1 มาจากเชื้อเพลิงน้ำมันเตา น้ำมันดีเซล และซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ
ราวกลางเดือนพฤษภาคม 2558 คณะรัฐบาลได้มีมติเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า 2558 - 2579 (PDP 2015) ซึ่งในแผนดังกล่าวระบุว่า ประเทศไทยจะต้องปรับสมดุลพลังงาน โดยลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโต โดยก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มให้เพียงพอกับกำลังการผลิต ภายในปี พ.ศ. 2579 ขณะเดียวกัน มีกลุ่มนักวิชาการ และนักสิ่งแวดล้อม ออกมาทักท้วงให้รัฐบาลดำเนินนโยบายการผลิตไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน มากกว่าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่
แสดงความเห็น