การเปลี่ยน “ประชาชน” ให้เป็น “พลเมือง” จะช่วยคลี่คลายวิกฤตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้

วิกฤตบ้านเมืองเมืองที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดจากการประชาชนขาดจิตสำนึกในความเป็น “พลเมือง” เป็นเพียงผู้ถูปอุปถัมภ์ของชนชั้นปกครองใหม่ที่มาจาการเลือกตั้ง มีการใช้สิทธิและเสรีภาพตามอำเภอใจโดยไม่สนหน้าที่ ทำให้เกิดความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ทำตามกติกาหรือกฎหมายนำไปสู่การใช้ความรุนแรง ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่ใช้วิจารณญาณของตัวเอง มีการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่ร่วมตรวจสอบผู้มีอำนาจรัฐ สนใจแต่เรื่องบันเทิงเริงรมณ์

ทั้งที่ พลเมือง (citizen) ไม่ได้หมายถึงผู้ถูกปกครองเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้มีบทบาทในการเสนอนโยบายสาธารณะหรือตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ

การแก้ไขวิกฤตของบ้านเมืองส่วนหนึ่งต้องเริ่มจากการสร้างความเป็น “พลเมือง” และกำหนด “หน้าที่ของพลเมือง” ให้เคารพกฎหมายและปฏิบัติตาม มีความซื่อสัตย์สุจริต ใช้สิทธิเสรีภาพอย่างเหมาะสมไม่ละเมิดผู้อื่น รับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและสังคม อีกทั้งมีจิตสาธารณะที่รับผิดชอบต่อส่วนรวม เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดห้ามคนไทยทะเลาะกันไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฯ “พลเมืองต้องไม่กระทำการที่ทำให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างคนในชาติหรือศาสนา หรือไม่ยั่วยุ ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ หรือการใช้ความรุนแรงระหว่างกัน” 

แสดงความเห็น