หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงยุทธศาสตร์ 9 ด้านเพื่อเป็นแนวทางการปฏิรูปและพัฒนาประเทศ โดยยุทธศาสตร์ที่ 5 การผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดผลโดยเร็ว เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 หัวหน้า คสช.จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยเพิกถอนสภาพป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินให้เป็นที่ราชพัสดุ ก่อนเปิดให้เอกชนยื่นขอเช่าใช้ประโยชน์เพื่อการลงทุน
สำหรับที่ดินที่ถูกเพิกถอนสภาพเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักลงทุนเช่าใช้ประโยชน์ระยะยาว 50 ปี ตามคำสั่งดังกล่าว เนื้อที่รวมทั้งหมด 8,478 ไร่ ประกอบด้วย 1. ที่ดินในท้องที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ 803 ไร่ ป่าไม้ถาวร 2,182 ไร่ และถอนสถาพที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน 13 ไร่ 2. ที่ดินในท้องที่ ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหารและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ต.คำป่าหลาย ต.บ้านโคก ต.ดงมอน ต.กุดแข้ ต.โพนทราย ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร ต.คำชะอี อ.คำชะอี และ ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย เพิกถอนป่าไม้ถาวร 187 ไร่ เขต ส.ป.ก. 877 ไร่ และที่สาธารณสมบัติแผ่นดิน 1,085 ไร่
3. ที่ดินในท้องที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพิกถอนป่าสงวนฯ 1,066 ไร่ ที่สาธารณสมบัติ 660 ไร่ 4.ที่ดินในท้องที่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพิกถอนที่สาธารณสมบัติ 3 แปลง 887 ไร่ 5. ที่ดินในท้องที่ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย เพิกถอนที่สาธารณสมบัติ 718 ไร่ โดยผู้เช่ามีสิทธิ์นำที่ดินไปให้เช่าช่วงหรือนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ได้ และแม้จะให้เช่าเกิน 100 ไร่ก็ไม่ต้องขออนุมัติจากอธิบดีกรมที่ดิน
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ และ ประชาไท
แสดงความเห็น