ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะกำหนดกติกาการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีข้อน่าสนใจเช่น การกำหนดโทษหนักถึง 10 ปี สำหรับการโพสต์ที่ผิดข้อเท็จจริงหรือปลุกระดม ก่อนการทำประชามติ 7 วัน ห้ามมีการเปิดเผยผลโพลที่เกี่ยวกับการออกเสียง กำหนดอายุผู้มีสิทธิออกเสียงไว้ที่ 18 ปี ส่วนการแสดงความคิดเห็นและรณรงค์สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด
รัฐบาลประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่าวันที่ 7 สิงหาคม 2559 จะเป็นวันออกเสียงประชามติ ก่อนจะไปถึงวันนั้นรัฐบาลมอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นกติกาให้การทำประชามติมีความชัดเจนและสงบเรียบร้อย
ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น การกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิออกเสียง หลักเกณฑ์การลงคะแนน ฐานความผิด และบทลงโทษในการออกเสียงประชามติ ทั้งนี้ ยังมีกฎกติกาบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจนซึ่งจะถูกกำหนดโดย กกต.อีกครั้ง เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจาก สนช. สำหรับรายละเอียดประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้
แสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด
ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติฯ กำหนดให้ กกต. จัดให้มีการแสดงความเห็นโดยอิสระและเท่าเทียมกันทุกฝ่าย รวมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐ หรือภาคเอกชนจัดกิจกรรมรณรงค์ แต่ให้เป็นไปตามแนวทางและรูปแบบที่ กกต.กำหนด รวมทั้งให้สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมจัดสรรเวลาออกอากาศหรือเผยแพร่ข้อมูลตามที่ กกต.กำหนด
นวัตกรรมใหม่! ออกเสียงผ่านเครื่องลงคะแนน
การลงคะแนนออกเสียงครั้งนี้สามารถทำได้สองวิธี คือ “การลงคะแนนด้วยบัตรออกเสียง” และ “การลงคะแนนด้วยเครื่องลงคะแนน” อย่างไรก็ตาม การลงคะแนนด้วยเครื่องลงคะแนนจะมีการทดลองใช้เพียงบางหน่วยออกเสียง สำหรับ หน่วยออกเสียงที่ กกต.ประกาศให้มีการใช้เครื่องลงคะแนนได้ ผู้มีสิทธิออกเสียงสามารถแจ้งความประสงค์ว่าจะลงคะแนนออกเสียงด้วยบัตรออกเสียงหรือเครื่องลงคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
อายุ 18 ปี ถึงจะมีสิทธิออกเสียง
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติไม่แตกต่างจากการเลือกตั้ง ยกเว้นกำหนดให้ผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันออกเสียง สามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ ดังนั้นหากการออกเสียงประชามติเกิดขึ้นวันที่ 7 สิงหาคม ผู้ที่มีอายุครบ 18 ปี ในวันดังกล่าวสามารถไปใช้สิทธิออกเสียงได้
ใช้สิทธินอกพื้นที่ หรือย้ายที่อยู่ไม่ถึง 90 วัน ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 30 วัน
การออกเสียงประชามติครั้งนี้ไม่มีจัดให้มีการออกเสียงล่วงหน้า เพราะการออกเสียงประชามติจะทำวันเดียวพร้อมกันทั่วประเทศ ดังนั้น ผู้ที่ไม่สะดวกในการกลับภูมิลำเนาเพื่อออกเสียง และผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลาน้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันออกเสียง หากต้องการใช้สิทธิออกเสียง ให้ยื่นคำขอลงทะเบียนก่อนวันออกเสียงอย่างน้อย 30 วัน โดยจะหมดสิทธิลงคะแนนในหน่วยออกเสียงเดิมที่ตนมีชื่ออยู่
ถ้าไม่ “กากบาท” นับเป็นบัตรเสีย
ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้กำหนดลักษณะของบัตรเสียไว้หลายแบบ ซึ่งอาจสรุปอย่างรวบรัดว่า “บัตรที่ทำเครื่องหมายอื่นนอกจากเครื่องหมายกากบาท” คือบัตรเสีย
ค้านผลประชามติได้ ภายใน 24 ชั่วโมง
ประชาชนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงใด หากเห็นว่าการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้นเป็นไปโดยไม่สุจริต มีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมหลักฐานต่อ กกต. ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่การลงคะแนนออกเสียงสิ้นสุดลง
โพสต์บิดเบือน-ปลุกระดม ติดคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับสองแสน
สำหรับการควบคุมการออกเสียงและบทกำหนดโทษ มีความน่าสนใจโดยเฉพาะมาตรา 62 ที่สรุปได้ว่า
“ผู้ใดดำเนินการเผยแพร่ ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสื่อพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ห้ามเปิดผลโพลก่อนวันลงประชามติ 7 วัน
มาตรา 64 ผู้ใดเผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการออกเสียงในระหว่างเวลาเจ็ดวันก่อนวันออกเสียง จนถึงเวลาสิ้นสุดการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ฉีกบัตร-ถ่ายรูป-เล่นพนัน เจอโทษหนัก
ฉีกบัตรออกเสียงประชามติ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
นำบัตรออกเสียงประชามติออกไปจากสถานที่ออกเสียง จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ่ายรูปบัตรออกเสียงประชามติที่ตนได้ลงคะแนนออกเสียงแล้ว จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เล่นพนันผลประชามติ อันมีผลเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ออกเสียง จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตออกเสียงระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันออกเสียงจนสิ้นสุดวันออกเสียง จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ