ความคืบหน้า แก้ไขร่าง รธน.รายประเด็น

โฆษก กมธ.ยกร่างฯ เผยความคืบหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญรายประเด็น ไม่ยุบ กกต., ไม่ควบรวมผู้ตรวจการ-กสม., นายกฯ คนนอกต้องได้เสียง 2 ใน 3 ทุกกรณี, มีการปรับเพิ่มจำนวน ส.ส.เขต และอาจบรรจุระบบโอเพนลิสต์ไว้ในบทเฉพาะกาล

23 มิ.ย.2558 นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญว่า อาจต้องมีการแก้ไขเนื้อหากว่า 100 มาตรา โดยระบุว่าหลัง กมธ.ยกร่างฯ พิจารณารายมาตราเสร็จภายในเดือน ก.ค.ยังสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ก่อนถึงร่างสุดท้ายไม่เกินวันที่ 22 สิงหาคม 2558

ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างฯ ในรายประเด็น นายปกรณ์ ปรียากร โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า กมธ.ยกร่างฯ มีแนวโน้มปรับเนื้อหาใน 2 เรื่อง คือ 1) การจัดการเลือกตั้ง จะมีการปรับเอาคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ออก เหลือเพียงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ 2) จะไม่ควบรวมผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าด้วยกัน โดยจะยังคงให้เป็นรูปแบบเดิมเหมือนที่ผ่านมา ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และความซ้ำซ้อนกันนั้น กมธ.ยกร่างฯ จะพิจารณาในรายละเอียดช่วงของการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราอีกครั้ง

ส่วนในประเด็นของระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม นายคำนูณ กล่าวว่า จะมีการปรับเปลี่ยน ส.ส.เขต จาก 250 คน เป็น 300 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 200 คนเหลือ 150 คน โดยให้มีบัญชีเดียว สำหรับระบบโอเพ่นลิสต์ อาจเขียนในบทเฉพาะกาลว่า จะใช้ต่อเมื่อมีการลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ส่วนประเด็นนายกรัฐมนตรีคนนอก นายคำนูณกล่าวว่า ถ้าเป็นนายกฯ คนนอกจะยังคงหลักการเดิมคือ ให้ใช้เสียง 2 ใน 3 ทุกกรณี โดยจะปรับปรุงจากเดิมที่เขียนว่า ถ้าพ้น 30 วันแล้วให้ใช้เสียงข้างมาก

สำหรับความคืบหน้าในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในรายประเด็นอื่นๆ มีความชัดเจนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยกว่า 10 ประเด็น เช่น การตัดมาตรา 182 ทิ้ง, ปรับปรุงมาตรา 181 ให้นายกฯ ยังคงเสนออภิปรายไว้วางใจตัวเองได้ แต่ไม่ตัดสิทธิฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมสภา, ตัดประเด็นกลุ่มการเมืองไม่ให้ลงเลือกตั้ง ตัดรายละเอียด "ปฏิรูป" ใส่ใน ก.ม.ลูกแทน, ให้ ส.ว.มาจากการสรรหาโดยลดอำนาจลง

ที่มา: ประชาไท