ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มีบทบัญญัติใหม่เรื่อง “ความเป็นพลเมืองและหน้าที่พลเมือง” ปรากฎอยู่ในมาตรา 26-27 มีสาระสำคัญ คือการกำหนดให้ประชาชนชาวไทยทุกคนเป็นพลเมือง พร้อมกำหนดสิ่งที่พลเมืองต้องปฏิบัติ และหน้าที่ของพลเมือง หลายประการ
“มาตรา 26 ประชาชนชาวไทยย่อมมีฐานะเป็นพลเมือง
พลเมืองต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เคารพหลักความเสมอภาค ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม มีค่านิยมที่ดี มีวินัย ตระหนักในหน้าที่ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม รู้รักสามัคคี มีความเพียร และพึ่งตนเอง
พลเมืองต้องไม่กระทำการที่ทำให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างคนในชาติหรือศาสนา หรือไม่ยั่วยุ ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การเป็นปฏิปักษ์ หรือการใช้ความรุนแรงระหว่างกัน
รัฐมีหน้าที่ต้องปลูกฝังให้พลเมืองยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีค่านิยมประชาธิปไตย ตลอดจนจัดให้มีการศึกษาอบรมในทุกระดับ ทุกประเภท และทุกกลุ่มอายุ เพื่อสร้าง ความเป็นพลเมืองตามมาตรานี้
“มาตรา 27 พลเมืองมีหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้
(2) ป้องกันประเทศ รับราชการทหาร รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
(3) เสียภาษีอากรโดยสุจริต
(4) ใช้สิทธิทางการเมืองโดยสุจริตและมุ่งถึงประโยชน์ส่วนรวม
(5) ช่วยเหลือราชการ ช่วยเหลือในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติสาธารณะ รับการศึกษาอบรม ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพโดยสุจริต ปกป้อง พิทักษ์ อนุรักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้ง สงวนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”
ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน ถือเป็นครั้งแรกที่กำหนดเนื้อหาเกี่ยวกับ “หน้าที่” ขึ้นมาก่อน “สิทธิและเสรีภาพ” และบทบัญญัติว่าด้วย “หน้าที่พลเมือง” นี้ ก็ทำให้เกิดทั้งเสียงชื่นชม-สนับสนุน และคำถามกับข้อโต้แย้งตามมามากมาย
แสดงความเห็น